Latest Breaking News On - May ri centerville - Page 6 : vimarsana.com
CGTN ประกาศ 200 รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว Media Challenger ผู้เขียน กระทู้: CGTN ประกาศ 200 รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว Media Challenger (อ่าน 4 ครั้ง)
หลังจากที่ใช้เวลานานสามเดือนในการเฟ้นหาผู้สื่อข่าวที่มีพรสวรรค์จาก 130 ประเทศและดินแดนทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมการออดิชั่นออนไลน์หลายพันคนนับตั้งแต่เดือนเมษายน ในที่สุด CGTN ได้ประกาศรายชื่อ 200 คนที่ผ่านเข้าสู่รอบสองของโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว Media Challengers เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการตัดสิน 30 คนจากทั่วโลกซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านสื่อ ผู้บริหารจากองค์กรสื่อชั้นนำ รวมถึงผู้นำทางความคิดและผู้นำอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง ได้ปรากฏตัวในโอกาสนี้ด้วย
เพื่อเฟ้นหาผู้สื่อข่าวหน้ากล้องรุ่นใหม่ CGTN จึงเปิดรับผู้ที่มีความสามารถในด้านนี้จากทั่วโลก ทั้งพรีเซนเตอร์ ดีเจ พอดแคสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย และนักเล่าเรื่อง โดยแต่ละคนได้ส่งคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที เพื่อโน้มน้าวให้กรรมการเห็นว่าตนเองควรได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นผู้สื่อข่าวหน้าใหม่ของ CGTN
CGTN ได้รับคลิปวิดีโอมากมายความยาวรวมกว่า 100 ชั่วโมง ซึ่งบอกเล่าภูมิหลังและความสามารถอันหลากหลายของนักสร้างสรรค์คอนเทนต์จากทั่วโลก โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ 40 คนจากอุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิงได้ชมวิดีโอทั้งหมดในการออดิชั่น 12 ครั้ง และคัดเลือกผู้เข้ารอบเพียง 200 คน
ทั้ง 200 คนต้องส่งผลงานวิดีโอในรอบต่อไป เพื่อโชว์ทักษะการเล่าเรื่อง การตัดต่อ และการนำเสนอของตนเอง ที่สำคัญที่สุดคือ แต่ละคนต้องแสดงความสามารถในการดึงดูดผู้ชมผ่านไอเดียสุดสร้างสรรค์และบุคลิกลักษณะที่มีชีวิตชีวาของตนเอง
โครงการ Media Challengers เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 โดยมีจุดมุ่งหมายในการเฟ้นหาผู้สื่อข่าวที่มีพรสวรรค์และมีอนาคตไกลจากทั่วโลก ผู้ที่ผ่านเข้ารอบมีโอกาสได้รับการฝึกอบรมด้านสื่อมัลติมีเดียอย่างมืออาชีพ เข้าสู่ฐานข้อมูลคนเก่งของ CGTN และได้เป็นผู้สื่อข่าวฟูลไทม์หรือพาร์ทไทม์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวโดยตรงจากแนวหน้า เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน ผู้ชนะอาจได้รับข้อเสนอให้ทำงานที่สำนักงานใหญ่ของ CGTN ในปักกิ่ง หรือศูนย์ผลิตสื่อระดับภูมิภาคสามแห่งในวอชิงตันดีซี ลอนดอน และไนโรบี
สามารถรับชมวิดีโอของผู้เข้ารอบ 200 คนได้จากแพลตฟอร์มพันธมิตรรายใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ Weibo, Bilibili, Yangshipin, Facebook, YouTube, LinkedIn และ Variety China
https://news.cgtn.com/news/2021-07-20/CGTN-selects-Top-200-Media-Challengers-globally-122GhNacl6o/index.html
วิดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=_9dKbk8c4eM
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1578773/Image1.jpg
คำบรรยายภาพ: CGTN ประกาศ 200 รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว Media Challengers
BeijingChinaCentervilleWashingtonUnited-statesOr-centerAudition-onlineMay-ri-centervilleBeijing-or-centerLondon-chennai-romaபெய்ஜிங்หลังจากที่ใช้เวลานานสามเดือนในการเฟ้นหาผู้สื่อข่าวที่มีพรสวรรค์จาก 130 ประเทศและดินแดนทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมการออดิชั่นออนไลน์หลายพันคนนับตั้งแต่เดือนเมษายน ในที่สุด CGTN ได้ประกาศรายชื่อ 200 คนที่ผ่านเข้าสู่รอบสองของโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว Media Challengers เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการตัดสิน 30 คนจากทั่วโลกซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านสื่อ ผู้บริหารจากองค์กรสื่อชั้นนำ รวมถึงผู้นำทางความคิดและผู้นำอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง ได้ปรากฏตัวในโอกาสนี้ด้วย
เพื่อเฟ้นหาผู้สื่อข่าวหน้ากล้องรุ่นใหม่ CGTN จึงเปิดรับผู้ที่มีความสามารถในด้านนี้จากทั่วโลก ทั้งพรีเซนเตอร์ ดีเจ พอดแคสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย และนักเล่าเรื่อง โดยแต่ละคนได้ส่งคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที เพื่อโน้มน้าวให้กรรมการเห็นว่าตนเองควรได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นผู้สื่อข่าวหน้าใหม่ของ CGTN
CGTN ได้รับคลิปวิดีโอมากมายความยาวรวมกว่า 100 ชั่วโมง ซึ่งบอกเล่าภูมิหลังและความสามารถอันหลากหลายของนักสร้างสรรค์คอนเทนต์จากทั่วโลก โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ 40 คนจากอุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิงได้ชมวิดีโอทั้งหมดในการออดิชั่น 12 ครั้ง และคัดเลือกผู้เข้ารอบเพียง 200 คน
ทั้ง 200 คนต้องส่งผลงานวิดีโอในรอบต่อไป เพื่อโชว์ทักษะการเล่าเรื่อง การตัดต่อ และการนำเสนอของตนเอง ที่สำคัญที่สุดคือ แต่ละคนต้องแสดงความสามารถในการดึงดูดผู้ชมผ่านไอเดียสุดสร้างสรรค์และบุคลิกลักษณะที่มีชีวิตชีวาของตนเอง
โครงการ Media Challengers เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 โดยมีจุดมุ่งหมายในการเฟ้นหาผู้สื่อข่าวที่มีพรสวรรค์และมีอนาคตไกลจากทั่วโลก ผู้ที่ผ่านเข้ารอบมีโอกาสได้รับการฝึกอบรมด้านสื่อมัลติมีเดียอย่างมืออาชีพ เข้าสู่ฐานข้อมูลคนเก่งของ CGTN และได้เป็นผู้สื่อข่าวฟูลไทม์หรือพาร์ทไทม์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวโดยตรงจากแนวหน้า เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน ผู้ชนะอาจได้รับข้อเสนอให้ทำงานที่สำนักงานใหญ่ของ CGTN ในปักกิ่ง หรือศูนย์ผลิตสื่อระดับภูมิภาคสามแห่งในวอชิงตันดีซี ลอนดอน และไนโรบี
สามารถรับชมวิดีโอของผู้เข้ารอบ 200 คนได้จากแพลตฟอร์มพันธมิตรรายใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ Weibo, Bilibili, Yangshipin, Facebook, YouTube, LinkedIn และ Variety China
https://news.cgtn.com/news/2021-07-20/CGTN-selects-Top-200-Media-Challengers-globally-122GhNacl6o/index.html
วิดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=_9dKbk8c4eM
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1578773/Image1.jpg
คำบรรยายภาพ: CGTN ประกาศ 200 รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว Media Challengers
ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
BeijingChinaCentervilleWashingtonUnited-statesOr-centerAudition-onlineMay-ri-centervilleBeijing-or-centerLondon-chennai-romaபெய்ஜிங்บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่จากประเทศญี่ปุ่น “อายิโนะโมะโต๊ะ เบลนดี้” หลังจากที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดจนครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น โดย “อายิโนะโมะโต๊ะ เบลนดี้” ในประเทศไทย จะนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ใน 2 รูปแบบ ทั้ง Blendy Stick เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง และ Blendy เครื่องดื่มเย็นในรูปแบบขวด หลากหลายเมนู ทั้งกาแฟนม กาแฟดำ ชา และโกโก้ ที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายกับความหอมอร่อย นุ่มละมุน สไตล์ญี่ปุ่น ให้ทุกวันเป็นวันดีดี Have a Blendy Day
วันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจอาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้ ที่คนไทยหันมานิยมกาแฟสดและการดื่มกาแฟที่คาเฟ่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นและวัยทำงาน อายิโนะโมะโต๊ะเองก็ได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายการทำตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยและขยายกลุ่มฐานลูกค้าของเราให้มากขึ้น จึงได้แนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้องใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทย ภายใต้แบรนด์ “อายิโนะโมะโต๊ะ เบลนดี้” ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟชั้นนำที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดเป็นอย่างดีในประเทศญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “อายิโนะโมะโต๊ะ เบลนดี้” จะชูจุดเด่นในเรื่องความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ที่จะให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลองใน 2 รูปแบบ คือ Blendy Stick เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง ที่ชวนให้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับหลากหลายรสชาติ ทั้ง “กาแฟนม” และ “กาแฟนมแบบ1/2 แคลอรี” สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ โดยนำเข้ากาแฟโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่น “ชาเขียว” ที่ผลิตจากใบชาแท้จากประเทศญี่ปุ่น และ “โกโก้” ที่เลือกสรรวัตถุดิบอย่างดีเยี่ยม ผ่านกระบวนการการผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้รสชาติที่ นุ่ม ละมุน และความหอมที่ลงตัว เหมือนนำความผ่อนคลายด้วยรสชาติแบบญี่ปุ่นมาเสิร์ฟถึงเมืองไทย และ Blendy เครื่องดื่มเย็นในรูปแบบขวด ที่มอบความผ่อนคลายขณะดื่ม ทำให้รู้สึกสดชื่นตั้งแต่จิบแรก ที่มาพร้อมหลากหลายเมนูยอดฮิต ทั้ง “กาแฟนม” และ “กาแฟดำ” ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟ อาราบิก้าแท้ 100% ในสูตรบราซิลเบลนด์ ผ่านกระบวนการดริปอย่างพิถีพิถัน เหมือนชงสดๆ จากคาเฟ่ เพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุน และกลิ่นที่หอมอย่างลงตัว และ “เมนูชานม” ที่เลือกใช้ใบชาเอิร์ลเกรย์ 100% ผสมนมอร่อยลงตัว ดื่มง่าย และจิบได้บ่อยตามที่ต้องการ ให้คุณอร่อยไปกับเครื่องดื่มรสชาติสไตล์ญี่ปุ่นได้ที่บ้านในช่วง work from Home ทั้งนี้ “เบลนดี้” Blendy Stick มีสูตรที่มีแคลอรี่น้อยเพียง 30 Kcal และ Blendy เครื่องดื่มเย็นในรูปแบบขวด ทั้ง 3 สูตร กาแฟนม กาแฟดำ และชานม ได้รับสัญลักษณ์ “ทางเลือกเพื่อสุขภาพ” เพื่อเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพให้กับผู้บริโภคอีกด้วย ด้วยเราตระหนักในเรื่องการส่งเสริม “สังคมสุขภาพดี” อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “การสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมของอายิโนะโมะโต๊ะ (The Ajinomoto Group Creating Shared Value: ASV)” ที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด
นอกจากนี้ “อายิโนะโมะโต๊ะ เบลนดี้” ยังได้เปิดตัวหนังโฆษณาตัวแรก ที่ได้ “ลี ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ” และ “อิ้งค์ วรันธร เปานิล” มารับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ที่จะมาชวนคุณผ่อนคลายกับเครื่องดื่มหอมอร่อย นุ่มละมุน สไตล์ญี่ปุ่น ให้ทุกวันเป็นวันดีดี สามารถหาซื้อสินค้าได้แล้ววันนี้ ที่ช่องทางออนไลน์ และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมดีๆ ได้ที่ Facebook Fan Page “Blendy Thailand”
ที่มา: อายิโนะโมะโต๊ะ
JapanThailandBrazilJapaneseManager-dailyThailand-southCountry-japanBrazil-blendRavens-molina-rickMay-ri-centervilleஜப்பான்เปิดวาร์ป!! นักกีฬาหญิงดาวเด่นโอลิมปิก 2020 สวยแกร่งเซ็กซี่ใจเด็ด พิชิตเหรียญทองเพื่อชาติ
บันทึก
SHARE
ประกาศศักดาความพร้อมกันเต็มที่ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก โตเกียว 2020” ซึ่งจะเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค.นี้ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เตรียมต้อนรับทัพนักกีฬาจากทั่วโลกกว่าหมื่นชีวิต ที่ทยอยกันเดินทางมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการกีฬาโลก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างการแข่งขันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
แม้จะมีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะๆว่าหลายประเทศปฏิเสธที่จะส่งตัวแทนทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ เพราะหวั่นผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 กระนั้น ในช่วงโค้งสุดท้ายได้รับการคอนเฟิร์มเป็นมั่นเหมาะแล้วจาก 206 ประเทศ พร้อมส่งนักกีฬารวม 11,091 คน เข้าร่วมแข่งขันในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ เพื่อสร้างความสุขให้ชาวโลก และจุดประกายความหวังใหม่อีกครั้ง โดยปีนี้เจ้าภาพเตรียมจัดแข่งขันไว้ 33 ชนิดกีฬา และมี 5 ชนิดกีฬาใหม่ ที่ถูกบรรจุเพิ่มเข้าไปเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ เช่น สเกตบอร์ด, ปีนหน้าผา, เบสบอลและซอฟต์บอล, คาราเต้ และกระดานโต้คลื่น
หนึ่งในสีสันน่าจับตามองต้องยกให้
“ทัพนักกีฬาหญิงทีมชาติ” ที่ทั้งแกร่งทั้งสตรอง แถมยังสวยเซ็กซี่ไม่แพ้นางแบบระดับโลก หลายคนมีดีกรีเป็นถึงแชมป์เหรียญทองโอลิมปิก ขณะที่บางคนแซ่บสะท้านสนามแข่งขึ้นแท่นเป็นขวัญใจแฟนกีฬาทั่วทุกมุมโลก
อัลลิสัน เฟลิกซ์
นำขบวนปลุกแรงใจสร้างความฮึกเหิมโดย
“อัลลิสัน เฟลิกซ์” ตำนานลมกรดสาวจากสหรัฐอเมริกา วัย 35 ปี เจ้าของสถิติโลก 6 เหรียญทอง และ 3 เหรียญเงินโอลิมปิก เธอได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ประจำปี 2020 เพราะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้วงการกีฬาโลกจนขึ้นหิ้งเป็นตำนาน ด้วยผลงานล่าสุดทำลาย สถิติเก่าของนักวิ่งลมกรดจาเมกา
“ยูเซน โบลต์” สร้างสถิติโลกใหม่ซิวเหรียญทองเหรียญที่ 12 และ 13 จากการแข่งขันประเภท 4x400 เมตรหญิง และผลัดผสม 4x400 เมตร ในรายการชิงแชมป์โลก “เวิลด์ แชมเปียนชิป” ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อปี 2019 หลังผ่าคลอดลูกมาได้เพียง 10 เดือน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ชัดว่านักกีฬาหญิงยังสามารถทำผลงานได้ดีแม้จะมีลูก เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นขัดแย้งใหญ่สำหรับนักกีฬาหญิงทั่วโลก หลังจาก “อลิเซีย มอนทาโน” นักกรีฑาหญิงแชมป์ยูเอสแชมเปียนชิป ถูกไนกี้ถอดสปอนเซอร์ เพียงเพราะตั้งครรภ์!! จับตาดูให้ดีว่า “อัลลิสัน เฟลิกซ์” จะสร้างตำนานบทสุดท้ายได้ลือลั่นขนาดไหนในการโชว์ฝีเท้าวิ่ง 400 เมตร เพื่อพิชิตชัยชนะใน “โอลิมปิก โตเกียว 2020”
ซิโมน ไบลส์
ทีมชาติสหรัฐอเมริกายังได้กำลังเสริมจาก
“ซิโมน ไบลส์” นักยิมนาสติกสุดแกร่ง วัย 24 ปี จากโอไฮโอ ผู้พลิกชีวิตจากดินกลายเป็นดาว สร้างแรงบันดาลใจ อย่างมากให้ผู้หญิงทั้งโลก กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เป็นเจ้าของสถิติ 4 เหรียญทองโอลิมปิก และ 19 เหรียญทองจากศึกชิงแชมป์โลก ทำลายสถิติเดิมของตำนานนักยิมนาสติกชายแห่งสหภาพโซเวียต เธอผ่านความยากลำบากมาแล้วอย่างโชกโชน ตอนเด็กๆเคยถูกส่งตัวไปอยู่บ้านอุปถัมภ์ เพราะแม่แท้ๆติดยาอย่างหนัก โชคดีได้คุณตารับเป็นลูกบุญธรรม และอบรมสั่งสอนจนได้ดิบได้ดี จุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกชีวิตเกิดขึ้นตอนไปทัศนศึกษาเยี่ยมศูนย์ฝึกยิมนาสติก เด็กน้อยวัย 6 ขวบ หลงรักกีฬาชั้นสูงทันที และฉายแววให้เห็นจนเตะตาโค้ชเข้าอย่างจัง ด้วยพรสวรรค์บวกพรแสวงที่พยายามทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก ทำให้ “ซิโมน” ครองบัลลังก์แชมป์รุ่นจูเนียร์ และติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชุดเยาวชน ก่อนจะติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2013 เธอยังสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกีฬาชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่คว้าเหรียญทองจากการชิงแชมป์โลก ประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์ และยังกลายเป็นนักยิมนาสติกคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์โลก ที่ครอง 4 เหรียญทองโอลิมปิก กระนั้น มหกรรมกีฬา “โอลิมปิก โตเกียว 2020” จะเป็นครั้งสุดท้ายที่โลกได้เห็นลีลาของสุดยอดนักยิมนาสติกแห่งยุค เพราะ
“ซิโมน” ประกาศไว้แล้วว่าจะอำลาวงการหลังจบการแข่งขัน เพื่อฝากตำนานความยิ่งใหญ่ไว้ให้จดจำตลอดกาล
เอลิกา ชมิดท์
อาจไม่แกร่งไม่เจ๋งเท่านักกรีฑาหญิงรุ่นพี่ แต่เรื่องความฮอตความเซ็กซี่ก็นำโด่งหลายเท่าตัว สำหรับ
“เอลิกา ชมิดท์” ลมกรดสาวสุดฮอตจากทีมชาติเยอรมนี วัย 22 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นนักกีฬาหญิงที่สวยเซ็กซี่ที่สุดของโลก เคยเรียกเสียงฮือฮาด้วยการรับจ๊อบเป็นโค้ชพิเศษให้กับ
“เสือเหลือง” ทีมฟุตบอลโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อทำหน้าที่แม่เหล็กมัดใจหนุ่มๆ ไม่ให้หนีไปอยู่ทีมอื่น แม้ผลงานในสนามยังไม่โดดเด่น คว้าได้แค่เหรียญเงินและเหรียญทองแดงจากการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป แต่การลงสนาม
“โอลิมปิก โตเกียว 2020” ก็ประมาทในฝีเท้าของลมกรดสาวเมืองเบียร์ไม่ได้ เพราะเธอซุ่มฟิตซ้อมเต็มที่ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศชิงชัยเหรียญในการแข่งขัน 4x400 เมตรหญิง
นาโอมิ โอซากะ
นับเป็นข่าวดีของโตเกียว เกมส์ ที่นักเทนนิสหญิงมือวางอันดับต้นๆของโลก วัย 23 ปี อย่าง
“นาโอมิ โอซากะ” รับปากลงหวดลูกสักหลาดโอลิมปิก ในฐานะตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่น ทั้งๆที่เพิ่งช็อกวงการประกาศถอนตัวจากการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น 2021 รวมถึงรายการแข่งขันอื่นๆ เพราะเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่คว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น 2018 จนขยาดไม่กล้าให้สัมภาษณ์สื่อ กระนั้น ด้วยกำลังใจจากแฟนๆ ทำให้
“นาโอมิ” ฮึดสู้อีกครั้ง พร้อมกลับมาเป็นตัวแทนของชาวญี่ปุ่นในการชิงเหรียญทองโอลิมปิก งานนี้ได้รับการยืนยันว่าสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งวงการเทนนิสยินดีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตลอดการแข่งขัน และจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเอาชัยชนะมาเป็นของขวัญให้ชาวอาทิตย์อุทัย
เลติเซีย บูโฟนี
สเกตบอร์ด, ปีนหน้าผา, เบสบอลและซอฟต์บอล, คาราเต้ และกระดานโต้คลื่น เพิ่งได้รับการบรรจุให้เป็นกีฬาใหม่ใน
“โอลิมปิก โตเกียว 2020” จึงเป็นโอกาสแจ้งเกิดของดาวรุ่งดวงใหม่ นำทัพโดย
“เลติเซีย บูโฟนี” นักสเกตบอร์ดสาวสุดซิ่ง วัย 28 ปี จากประเทศบราซิล เจ้าของลายสักแห่งความหวัง เธอไม่ได้มาเล่นๆ แต่พกดีกรีแชมป์โลกหลายรายการรับประกันความเก๋า สาวเท่ขวัญใจคนรุ่นใหม่เริ่มเล่นสเกตบอร์ดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เธอเล่าว่าตอนเด็กๆชอบออกไปขลุกอยู่กับเพื่อนบ้านตามท้องถนน พ่อจับได้ก็เขวี้ยงสเกตบอร์ดพังไม่มีชิ้นดี และสั่งห้ามเล่นเด็ดขาด ต้องหนีพ่อไปซ้อมบอร์ดทุกวัน กระทั่งอายุ 14 ปี ได้รับการชักชวนให้ลงแข่งรายการใหญ่
“ซัมเมอร์ เอ็กซ์ เกมส์” ที่แคลิฟอร์เนีย ใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ไม่นาน ก็สามารถคว้าเหรียญทองมาครองให้ชื่นใจ โดยสร้างสถิติเจ้าของ 5 เหรียญทองจากการแข่งขัน X Games นอกจากจะได้รับการยกย่องให้เป็นนักสเกตบอร์ดหญิงที่โดดเด่นที่สุดแห่งยุค เธอยังมีแฟนๆติดตามทางอินสตาแกรมมากกว่า 2.9 ล้าน และสร้างรายได้มหาศาลจากการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าแบรนด์ดังๆระดับโลก ต้องขอบคุณความจนในวัยเด็ก ที่โตมาแบบบ้านๆ ไม่มีคอมพิวเตอร์หรือมือถือให้เล่น ทำให้ต้องพึ่งสเกตบอร์ดเป็นของเล่นคลายเหงา และมุ่งมั่นฝึกฝนจนได้ดิบได้ดีมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้
สเตฟานี กิลมอร์
ด้าน
“สเตฟานี กิลมอร์” นักกีฬาโต้คลื่นหญิง วัย 33 ปี จากนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ก็ถูกจับตาในฐานะความหวังสำคัญที่จะซิวเหรียญทองโอลิมปิกให้ทีมชาติออสซี การันตีด้วยผลงานโดดเด่นทะลุตาจากการคว้าแชมป์ 7 สมัย ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ตั้งแต่ปี 2007-2018 เห็นหน่วยก้านแล้วบอกเลยว่าป้ายังฟิตทุกพิกัด
จานจา การ์นเบร็ต
ขณะที่กีฬาปีนหน้าผา ก็มีตัวเก็งเต็งหนึ่งอย่าง
“จานจา การ์นเบร็ต” ตัวแทนทีมชาติสโลวีเนีย วัย 22 ปี สร้างสีสันความร้อนแรง สาวน้อยมือกาวเป็นเจ้าของดีกรีนักปีนเขาแชมป์โลก 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ล่าสุด ยังสร้างสถิติใหม่ร่วมกับนักปีนผาหนุ่มคู่ใจ ปีนปล่องไฟภายในโรงงานไฟฟ้า
“ทราโบจี” ทางตะวันออกของสโลวีเนีย ซึ่งมีความสูงที่สุดในยุโรป ทั้งคู่ต้องใช้ความพยายามถึง 2 ครั้ง กว่าจะพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ ทำลายสถิติไว้ที่ 7 ชั่วโมง 32 นาที ยากที่ใครจะโค่นได้
แม้จะไร้ผู้ชม และสถานการณ์ไม่ค่อยเป็นใจ ต้องเสี่ยงกับการแพร่ระบาดของโควิด–19 แต่สำหรับนักกีฬาที่มุ่งมั่นฝึกซ้อมมาอย่างหนักหลายปี ไม่มีอะไรจะน่าภูมิใจเท่ากับการได้เป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่อย่าง “โอลิมปิก โตเกียว 2020”.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
อ่านเพิ่มเติม...
AustraliaDohaAd-daw-ahQatarJapanTokyoUnited-statesCongoBrazilJamaicaCaliforniaRamsgate