ด.ญ.7 ขวบผจญนรกโควิด พรากชีวิตแม่-พ่อก็ป่วย ร่ำไห้นอนกับศพในคอนโด (คลิป)
บันทึก
SHARE
ทุบสถิติอีกครั้งยอดติดเชื้อโควิด-19 ทำนิวไฮพุ่งถึง 16,533 ราย ดับสังเวยไวรัสมหันตภัยไปอีก 133 ศพ ศบค.เผยยังมีตายคาบ้านอีก 5 ศพ สวนทางกับที่นายกรัฐมนตรีเคยลั่นวาจาจะไม่ ให้มีใครตายคาบ้านอีก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ส่งหนังสือแจ้งแนวทางการฉีดวัคซีนถึงผู้ว่าฯทุกจังหวัดพื้นที่สีแดง 13 จังหวัด ให้ฉีดแอสตราเซเนกา 2 เข็ม ส่วนจังหวัดอื่นฉีดไขว้ ด้านคนต่างจังหวัดยังแห่มาฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อกันล้นหลาม ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อพบแก๊งขายสิทธิ์ฉีดวัคซีนผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ เรียกรับเงินคนละ 500-1,000 บาท เผยทำมาแล้ว 3 วัน วันละ 1,500 คน ศักดิ์สยามสั่งดำเนินคดีเด็ดขาด ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยคาดผู้ป่วยอาจถึง 2 แสนคนเร็วๆนี้ นายกฯเรียกประชุม 12 จังหวัดแดงเข้ม ถาม ผวจ.จังหวัดไหนเชื้อลด ไม่มีใครตอบ สลดใจตายโควิดคาบ้านอีกรายทิ้งลูก 7 ขวบเฝ้าศพแม่ ส่วน 2 หนูน้อยกำพร้าที่บางโฉลงโชคยังดี เชื้อโควิดยังไม่ลงปอด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์รับตัวส่งเรียน โควิดพรากชีวิต “เกชา เปลี่ยนวิถี” ดาราอาวุโสที่รับบทดาวร้ายตลอดชีวิตการแสดง
สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ในขณะที่การแก้ไขปัญหานี้ของรัฐบาล ยังเชื่องช้าไม่ทันการณ์ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงลิ่วและยังมีผู้เสียชีวิตคาบ้านอีกหลายศพ สวนทางกับที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศผ่าน ศบค.ว่าจะไม่ให้มีใครตายคาบ้านอีก รวมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลบุษราคัมก็ยังสิ้นลมหายใจคาโรงพยาบาลไปอีกหลายศพเช่นกัน
ติดเชื้อ 1.6 หมื่นตายคาบ้าน 5 ศพ
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 16,533 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,321 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 13,447 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,874 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 202 ราย เป็นผู้มาจากต่างประเทศ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 543,361 ราย รักษาอยู่ 178,270 ราย อาการหนัก 4,325 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 995 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 133 ราย เป็นชาย 65 ราย หญิง 68 ราย อยู่ใน กทม. 45 ราย โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตที่บ้านถึง 5 ราย อยู่ใน กทม. 1 ราย ฉะเชิงเทรา 1 ราย สมุทรปราการ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 4,397 ราย ส่วนยอดการฉีดวัคซีนวันที่ 27 ก.ค. ฉีดใหม่ 327,389 โดสยอดสะสม 16,427,059 โดส
คลัสเตอร์ใหม่ยังผุดไม่หยุด
ศบค.รายงานอีกว่า สำหรับ 10 จังหวัดผู้ติดเชื้อมากที่สุด กทม. 3,997 ราย สมุทรสาคร 1,147 ราย สมุทรปราการ 1,088 ราย ชลบุรี 864 ราย กาญจนบุรี 585 ราย นนทบุรี 520 ราย นครปฐม 476 ราย ฉะเชิงเทรา 447 ราย อุบลราชธานี 313 ราย และปทุมธานี 308 ราย ขณะที่ยังพบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายพื้นที่ เป็นการพบที่ จ.ชลบุรี 3 คลัสเตอร์ คือแคมป์ก่อสร้าง อ.ศรีราชา พบผู้ป่วย 67 ราย บริษัทอุปกรณ์ยานยนต์ อ.ศรีราชา พบผู้ป่วย 61 ราย แคมป์ก่อสร้าง อ.หนองใหญ่ พบผู้ป่วย 14 ราย ชุมชนตำบลแสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบผู้ป่วย 428 ราย โรงงานเสาเข็ม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบผู้ป่วย 8 ราย โรงงานแปรรูปไก่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พบผู้ป่วย 59 ราย ขณะที่ จ.ราชบุรี พบ 2 คลัสเตอร์ใหม่ คือโรงงานแปรรูปไก่ อ.เมือง พบผู้ป่วย 27 ราย และรีสอร์ต อ.สวนผึ้ง พบผู้ป่วย 22 ราย
“อนุทิน” ปัด สธ.–กทม.ไม่ขัดแย้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ประเด็นการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่าง กทม.และกระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่มีปัญหาความขัดแย้งอะไร เพียงแต่เกิดการตีความที่ไม่ตรงกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า มีการจัด ส่งวัคซีนทั้งหมดไป กทม.ตามที่ได้ประสานมา จากนั้นพื้นที่จะต้องไปจัดสรรจำนวนที่ต้องส่งมอบตามหน่วยงานตามพื้นที่ต่างๆ และต้องจัดสรรไว้สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” จนถึงการฉีดใน รพ.หรือ รพ.เอกชนใน กทม. เรื่องมีอยู่เท่านี้ การกระจายวัคซีนจะมี ศบค.เป็นผู้พิจารณาและรับทราบข้อมูลทั้งหมด คุยเข้าใจกันดี เชื่อว่าทุกคนแบกความเครียดเหมือนกันหมดขอให้เดินหน้าทำงานกันต่อ
บริหารวัคซีนตามสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ฉีดวัคซีนมาระยะหนึ่ง แล้ว แต่ทำไมยังเกิดปัญหาความเข้าใจไม่ตรงกันอยู่ นายอนุทินตอบว่า การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามความจำเป็นของพื้นที่ สัดส่วนประชากร อย่างเช่นที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดว่าเดือน มิ.ย.-ก.ค. ต้องฉีดให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เพื่อลดอัตราการติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิต นโยบายจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การสู้กับโรค ต้องปรับตามสถานการณ์อยู่ตลอด เมื่อถามถึงภาพความแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายอนุทิน ตอบว่า ช่วงเวลานั้นให้บริการกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นหลัก เราต้องเร่งฉีดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จึงเปิดให้วอล์กอิน ถึง 31 ก.ค. ประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก แต่ในเดือน ส.ค.จะฉีดให้ประชาชนทั่วไป ผ่านการลงทะเบียนจองตามปกติ ความแออัดจะลดน้อยลง แต่สำหรับผู้สูงอายุมากกว่า 75 ปี ยังเข้ามาฉีดได้ ขอย้ำว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นหน่วยสนับสนุนเก็บตกผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจากกลุ่มต่างๆ บุคลากรสาธารณสุขที่เข้าไปช่วยเหลือทำงานอย่างเต็มที่
“บิ๊กตู่” ถก 12 ผวจ.สีแดงเข้ม
ต่อมา เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ผอ.ศบค.เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม 12 จังหวัด ยกเว้น กทม.ผ่านระบบซูมจากบ้านพักกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) หารือถึงแนวทางแก้ปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การตั้ง รพ.สนาม การสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม นายกฯย้ำให้จังหวัดนำเสนอปัญหา ข้อติดขัด เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เฝ้าระวังการระบาดข้ามจังหวัด เพิ่มเตียงให้เพียงพอ ทั้งนี้ในที่ประชุม ผวจ.ฉะเชิงเทรารายงานว่าจำเป็นต้องใช้ระบบบับเบิ้ลแอนด์ซีลโรงงาน แคมป์แรงงานแหล่งระบาดหนักและมีคนงานข้ามจังหวัด เช่น สมุทรปราการ ต้องใช้มาตรการฉีดวัคซีน จัดหาที่พัก จนไปถึงระดับสูงสุดคือปิด 14 วัน ที่ประชุมเห็นพ้องว่าจังหวัดที่มีความเสี่ยงในเรื่องของโรงงานให้ใช้ระบบบับเบิ้ลแอนด์ซีล
สั่ง มท.–สธ.ตั้งเตียงแดงเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมเน้นย้ำถึงการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี Antigen Test Kit หรือ ATK เพื่อความรวดเร็ว ถ้าผลบวกก็เข้าสู่การรักษา กระทรวงสาธารณสุขรายงานแนวโน้มส่วนใหญ่ผู้ป่วยเหลืองไปสู่สีแดงเพิ่มสูงขึ้นจึงจำเป็นต้องมีเตียง วัคซีนและระบบการตรวจที่เพียงพอ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความกังวลถึงสถานที่ตรวจโควิดของเอกชน เมื่อตรวจแล้วหลายแห่งไม่ทำอะไรต่อ จึงมอบนโยบายให้ไปแก้ปัญหา นอกจากนี้ยังสั่งการให้เพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดง โดยสั่งการให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บูรณาการงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
ไม่มีใครตอบ จว.ไหนติดเชื้อลด
ระหว่างการหารือ นายกฯถามที่ประชุมว่า 2-3 วันนี้ มีพื้นที่ไหนการแพร่ระบาดลดลงมาบ้าง ไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดใดตอบคำถาม พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวย้ำว่า ต้องเสนอกันว่าปัจจุบันหายกลับบ้านจำนวนเท่าไหร่ จะโยงไปว่าเตียงต้องว่าง แล้วจะได้เชื่อมโยงในการรับผู้ป่วยใหม่เข้ามาแทนที่ นอกจากนี้ยังให้แต่ละจังหวัดประเมินสถานการณ์แต่ละสัปดาห์ โดยแสดงความเป็นห่วงบรรดาหมู่บ้าน จัดสรรต่างๆ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลและสำรวจประชากรในหมู่บ้านนั้นๆ รวมทั้งแนะนำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก้ปัญหา พูดคุยกัน จะได้นำผลสำเร็จไปจัดการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมบ้าง
หวังอย่างน้อยอีก 1 เดือนดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวชื่นชมการทำงานที่ศบค.สาธารณสุขจังหวัด ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่ละภารกิจมีคณะกรรมการรับผิดชอบนำเสนอ ศบค. และ ผอ.ศบค.ตัดสินใจ พร้อมกับระบุด้วยว่า “ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น 4-6 สัปดาห์ จากหลักฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันแต่ยอมรับว่าเป็นห่วงการใช้ ATK ของประชาชน ว่ามีความเข้าใจการใช้มากน้อยขนาดไหน” ในส่วนของงบประมาณ นายกฯกล่าวว่า หากขาดงบประมาณ เช่นในเรื่องการเพิ่มเตียง อุปกรณ์การแพทย์ ให้เสนอเข้ามาได้ทันที ในส่วน
Related Keywords