ศบศ.เดินห&#x

ศบศ.เดินหน้าดึงนักลงทุนต่างชาติ แก้กฎ-ลดภาษี ฟื้นเศรษฐกิจ


ศบศ.เดินหน้าดึงนักลงทุนต่างชาติ แก้กฎ-ลดภาษี ฟื้นเศรษฐกิจ
วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 - 07:02 น.
แพ็กเกจดึงดูดเศรษฐีต่างชาติ-ดึงเงินจากต่างประเทศ รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน-การจ้างงาน กำลังเดินอยู่บนทางสองแพร่ง
แพร่งที่หนึ่ง การรุกของ “ทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ” ที่มี
“ม.ล.ชโยทิต กฤดากร” ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
“สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” เป็นหัวหน้าทีม แพร่งที่สอง บนความเคลื่อนไหวของ
“ทีมความมั่นคง” แบ็กอัพให้ฝ่ายการเมืองรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ดึงฟืนออกจากไฟ ตัดกระแสข่าวที่โจมตีรัฐบาล
การพิจารณามาตรการดึงดูดเศรษฐีต่างชาติในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) 2 ครั้งที่ผ่านมาจึงยังไม่ตกผลึก-สะเด็ดน้ำ
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 การประชุม ศบศ. ครั้งที่ 2/2564 รับข้อเสนอของ “ทีมปฏิบัติการเชิงรุก” ที่ประชุมให้นำกลับไป “ทบทวน” เนื่องจากมีข้อกฎหมายที่ยังไม่ตกผลึก ครั้งที่สอง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 การประชุม ศบศ. ครั้งที่ 3/2564 ใช้เวลาถก-เถียงกันยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ยัง “ไม่สะเด็ดน้ำ”
“ธนกร วังบุญคงชนะ” โฆษก ศบศ. แถลงผ่านไลน์-จับถ้อยคำได้ว่า “ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป”
เบื้องลึก-เบื้องหลังการตีกลับ ให้กลับไปทบทวน (อีกครั้ง) เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ละเอียดว่า ทำได้-ไม่ได้ และนำกลับมาพิจารณาในที่ประชุม ศบศ.อีกครั้ง
เพราะเหตุผลที่แหล่งข่าวในที่ประชุมระบุว่า
“ทุกประเด็นมีปัญหา ถ้าต้องไปแก้กฎหมายก็เป็นเรื่องใหญ่ แต่ทุกอย่างต้องแก้กฎหมายทั้งหมด การเมืองตอนนี้ก็มีปัญหา เสนอในสิ่งที่อ่อนไหวก็พังเท่านั้น”
แต่ “ทีมปฏิบัติการเชิงรุก” ยังคงเดินหน้า-ผลักดันแพ็กเกจดึงเศรษฐีลงทุนให้ทันภายในสิ้นปี’64 โดยจะมีการปรับรายละเอียดอีกหลายประเด็นก่อนส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ไปรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการตัดสินใจของ ครม.
ฝ่ายทีมรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจระบุว่า ที่ประชุม ศบศ.เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 รับหลักการทุกข้อ “ยกเว้น” เรื่องสิทธิประโยชน์การคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ในประเทศไทยในอัตราคงที่ที่ร้อยละ 17
จะมีการปรับปรุง “จากเดิม” สิทธิประโยชน์จะให้ทั้ง 4 กลุ่ม จะถูกตัดออก-เหลือเพียง “กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ” เท่านั้น
“กฎหมายที่จะออกมาจะคล้ายกับการให้สิทธิประโยชน์ในพื้นที่อีอีซี 17% แต่จะเป็นการใช้ทั่วประเทศ และอาจจะปรับให้เลือกระหว่างการคิดภาษีในอัตราคงที่ 17% หรือคิดในอัตราก้าวหน้าได้
และถ้าอยากจะให้อีอีซีดึงดูดมากขึ้นก็ลดลงให้เหลือ 15% ขณะนี้มีบริษัทระดับโลกให้ความสนใจ เช่น บริษัท Microsoft และบริษัท Foxconn” แหล่งข่าว ศบศ.ระบุ
สำหรับกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติที่จะดึงมาลงทุน-พำนักระยะยาว 4 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง (wealthy global citizen) ที่มีรายได้สูง เดินทางบ่อย ใช้ชีวิตอยู่ในหลายประเทศ และมีทรัพย์สินอยู่ทั่วโลก
คุณสมบัติในการขอวีซ่าต้องลงทุนขั้นต่ำ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐในพันธบัตรรัฐบาลไทย ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หรือในอสังหาริมทรัพย์ และมีรายได้ส่วนบุคคลขั้นต่ำปีละ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
และมีทรัพย์สินขั้นต่ำ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีประกันสุขภาพจากบริษัทประกันที่ได้รับการรับรอง คุ้มครองค่ารักษา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปตลอดระยะเวลาถือวีซ่า
2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีรายได้สำหรับการเกษียณอายุที่มั่นคงเป็นประจำจากต่างประเทศ ลงทุนขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐในพันธบัตรรัฐบาลไทย
ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือในอสังหาริมทรัพย์ และมีรายได้ขั้นต่ำปีละ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมีรายได้ขั้นต่ำปีละ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีประกันสุขภาพจากบริษัทประกันที่ได้รับการรับรอง คุ้มครองค่ารักษา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ตลอดระยะเวลาถือวีซ่า
3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ทำงานให้กับนายจ้างในต่างประเทศ และสามารถทำงานทางไกลจากประเทศอื่นได้ มีรายได้ที่มั่นคงจากต่างประเทศ มี 2 ประเภทย่อย 1.ผู้ประกอบอาชีพด้านดิจิทัล และ 2.พนักงานองค์กรขนาดใหญ่และใกล้จะเกษียณอายุ
และ
4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ มีประสบกา

Related Keywords

Taiwan , United States , Thailand , , Office Secretariat Board , Express , Department Customs , Brooklyn Overture , Principles All , New Taiwan , South Regulations , டைவாந் , ஒன்றுபட்டது மாநிலங்களில் , தாய்லாந்து , எக்ஸ்பிரஸ் , புதியது டைவாந் ,

© 2025 Vimarsana