ออสเตรเลียอาจล็อกดาวน์ยาว หลังประชาชนประท้วงใหญ่
ไทยรัฐออนไลน์
บันทึกSHARE
ไทยรัฐออนไลน์25 ก.ค. 2564 13:16 น.
บันทึกSHARE
รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับ 2 ขณะที่การชุมนุมประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ของรัฐบาล อาจจะเกิดการระบาดครั้งใหญ่จนต้องล็อกดาวน์ยาวกว่าเดิม
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยมีมา โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 141 ราย ลดลงจากวันก่อนหน้าที่มีผู้ติดเชื้อ 163 ราย ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 38 ราย ที่ยังใช้ชีวิตตามปกติในชุมชนหลังติดเชื้อแล้ว
โดยการระบาดอีกระลอกเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา จนนับถึงตอนนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อในรัฐนิวเซาท์เวลส์แล้ว 2,081 ราย และอยู่ในห้องไอซียู 43 ราย เพิ่มจากวันก่อนหน้าที่มี 37 ราย ขณะเดียวกันก็มีผู้เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา 2 ศพ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหญิงวัย 30 ปี ที่ไม่แสดงอาการป่วยใดๆ มาก่อน สร้างความกังวลต่อหน่วยงานสาธารณสุขว่าจะคุมสถานการณ์ไม่อยู่ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่ซิดนีย์ล็อกดาวน์มานาน 4 สัปดาห์แล้ว ประกอบกับเพิ่งมีการชุมนุมประท้วงใหญ่ของประชาชนที่ต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งมีการรวมตัวกันจำนวนมาก อาจจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ของการระบาดระลอกนี้ ซึ่งประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบันคาดว่าน่าจะมีการประกาศขยายล็อกดาวน์ออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
ด้าน นางเกลดีส์ เบเรจิเคลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่าการประท้วงเมื่อวานนี้ สร้างความกังวลใจต่อเธอเป็นอย่างมาก และมันทำให้เธอหัวใจสลาย โดยเธอหวังว่าการชุมนุมประท้วงจะไม่ทำให้รัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องถอยหลัง กลับไปนับหนึ่งใหม่ แต่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้
โดยขณะนี้ยอดติดเชื้อโควิด-19 สะสมในประเทศออสเตรเลียอยู่ที่ 32,600 ราย และเสียชีวิตสะสม 918 ศพ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลีย เพิ่งมีการเปลี่ยนคำแนะนำในการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยให้คนที่อายุต่ำกว่า 60 ปีสามารถเข้ารับวัคซีนแอสตราเซเนกาได้ เพื่อช่วยเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้รวดเร็วขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้จำกัดให้วัคซีนแอสตราเซเนกากับผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียงลิ่มเลือดอุดตัน.
Related Keywords