vimarsana.com


ธุรกิจกลัวเจ็บแต่ไม่จบ วัคซีนไม่มาล็อกดาวน์ไร้ผล
ธุรกิจกลัวเจ็บแต่ไม่จบ วัคซีนไม่มาล็อกดาวน์ไร้ผล
วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 - 09:32 น.
FILE PHOTO : by Romeo GACAD / AFP
ศบค.ยกระดับมาตรการคุมเข้ม 10 จังหวัด ออก 5 กฎเหล็ก ล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว จำกัดการเดินทาง ปิดสถานที่เสี่ยง ให้รัฐ-เอกชน work from home ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิด 2 ทุ่ม 3 ทุ่มห้ามออกนอกบ้าน สภาอุตฯ-สภาหอฯประสานเสียงรับ กลุ่มค้าปลีก ร้านอาหาร โอดกระทบสภาพคล่อง รายได้ ร้องรัฐออกมาตรการเยียวยา ท่องเที่ยวจี้สื่อสารให้ชัด หวั่นกระทบภูเก็ตแซนด์บอกซ์ นักวิเคราะห์ชี้ผลกระทบโควิดรอบนี้ต้นทุนมหาศาล ฟันธงบริหารจัดการวัคซีนแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา เจ็บแต่ไม่จบ
วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 9/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวย ศบค. เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการยกระดับป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด (สีแดงเข้ม)
ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา ทั้งนี้ ศบค.เห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-30 กันยายน 2564 และมาตรการครั้งนี้ มุ่งเน้นจำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มของบุคคลขั้นสูงสุด รวมทั้งกำหนดเวลาการออกนอกเคหสถาน ควบคู่ไปกับการเร่งรัดมาตรการด้านการป้องกันโรค การฉีดวัคซีน การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล รวมทั้งการเยียวยา ดังนี้
5 กฎเหล็กคุมเข้มเต็มพิกัด
1.จำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด (เฉพาะกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล) ได้แก่ กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนใช้การปฏิบัติงานในลักษณะ work from home ให้มากที่สุด โดยไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่สำคัญและการบริการประชาชน
ระบบขนส่งสาธารณะ เปิดให้บริการได้ในห้วงเวลา 21.00 น. ถึง 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดเวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งนี้ เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหารหรือสุราหรือเครื่องดื่มในร้าน โดยเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม สวนสาธารณะ สามารถเปิดให้บริการสำหรับการออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น. ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคม ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมตามประเพณี ที่มีการรวมตัวกันของบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป สถานศึกษาใช้การเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ห้ามออกนอกบ้าน 3 ทุ่มถึงตี 4
2.ให้บุคคลงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นยิ่ง หรือได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี 3.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดของ ศบค.ที่ได้มีประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ 4.กำกับดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (DMHTTA) อย่างสูงสุด
10 ก.ค.ตั้งจุดตรวจ-สกัด
5.ให้เริ่มดำเนินการตามข้อ 1-4 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 64 เป็นต้นไป และให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ระดับสถานการณ์ต่าง ๆ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24, 25, 26) มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดนี้
6.ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และชุดลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเข้มงวด โดยให้พร้อมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 64 เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ กรณีตรวจพบผู้ฝ่าฝืนให้บังคับใช้บทลงโทษตามแห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
เร่งฉีดวัคซีน-เยียวยา
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศบค.ได้ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นสูงสุด ส.อ.ท.เห็นว่ารัฐบาลควรที่จะใช้ช่วงจังหวะนี้เร่งตรวจเชิงรุกหาคนที่ติดเชื้ออย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว
การล็อกดาวน์รอบนี้ รัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมากขึ้น เช่น เพิ่มระยะเวลาการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพิ่มมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อให้กลุ่มนี้สามารถรักษาอัตราการจ้างงานไว้ได้ รวมทั้งกลุ่มลูกจ้างซึ่งจะทำให้ผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์รอบนี้ไม่รุนแรงมาก
นอกจากนี้ ส.อ.ท.ยังอยู่ระหว่างการหารือถึงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือกลุ่มบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากกลุ่มบริษัทรายใหญ่ ๆ ให้ภาคธุรกิจทั้งหมดทุกขนาดธุรกิจรอดไปด้วยกัน แต่ไม่กังวลผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและซัพพลายเชน เพราะกลุ่มนี้สามารถปรับเวลาในการขนส่งสินค้า
หนุนเพิ่มเพดานเงินกู้ 5 แสนล้าน
ด้าน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับ 40 CEO พลัส ต่างเห็นพ้องว่า สิ่งสำคัญต้องวางมาตรการการดูแลปัญหาการแพร่ระบาด เพราะมีโอกาสสูงที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่น มาตรการที่ออกมากำหนดครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงลดการเดินทางได้ถือว่าเหมาะสม ซึ่งเมื่อควบคุมได้แล้วต้องมีมาตรการเยียวยาคู่ขนานกันไปด้วย
“สำหรับมาตรการเยียวยานั้น เรามองว่ารัฐมี พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ก็ควรเร่งนำมาใช้ให้เร็วภายในไตรมาส 3 นี้ หากจำเป็นต้องกู้เพิ่มก็ควรจะต้องกู้ โดยยังมีโอกาสที่จะขยายเพดานการเป็นหนี้สาธารณะขยับขึ้นไปอีก และประเทศที่พัฒนาแล้วหลาย ๆ ประเทศมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ หรือ QE ซึ่งไทยอาจจะต้องมองตรงนั้นบ้าง หากจำเป็น”
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การใช้มาตรการเข้มงวดที่ออกมาประมาณ 14 วัน เป็นไปตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ แต่ทางเอกชนจำต้องดูระเบียบความชัดเจนในเรื่องการขนส่งและการบรรทุกสินค้าก่อน ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก
ทุบกำลังซื้อค้าปลีก-ร้องเยียวยา
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการค้าปลีกรายใหญ่เปิดเผยว่า เมื่อมีการล็อกดาวน์ รัฐบาลควรออกมาตรการเยียวยาในคราวเดียวกันทันที ไม่ควรช้า เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเหนื่อยตั้งแต่โควิดรอบแรก ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น ภาพรวมถือว่าหนักกว่าที่ผ่านมา จากที่ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการค้าปลีกหลาย ๆ ธุรกิจต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่มั่นใจว่ามาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะเจ็บแล้วจบ ไม่มีใครตอบได้ว่าโควิดจะจบเมื่อไหร่ ธุรกิจที่หนักอยู่แล้วก็จะหนักมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มน็อนฟู้ด แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนกลุ่มอาหารยังพอไปได้
“ต้องยอมรับว่ามาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะกระทบห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร โดยเฉพาะสภาพคล่อง ขณะที่เอสเอ็มอีจำนวนหนึ่งจะขาดรายได้ ส่งผลกระทบต่อหนี้ทางธุรกิจ ทำให้การฟื้นธุรกิจต้องใช้เวลานานขึ้น”
ห่วงผลกระทบคนตกงาน
นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น, อากะ, ออน เดอะ เทเบิล ฯลฯ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์ คงไม่ช่วยอะไรและเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ จากปัญหาวัคซีนมีจำกัด ต้องปรับแผนกระจายวัคซีน ควบคู่กับเร่งฉีดให้กลุ่มเสี่ยง ก่อนธุรกิจจะถึงทางตันและเศรษฐกิจพัง อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมแผนรับมือ โดยจะให้ความสำคัญช่องทางดีลิเวอรี่ โดยเฉพาะสาขานอกศูนย์การค้า
“ที่น่าเป็นห่วงหลังล็อกดาวน์ การปิดห้าง ผลกระทบตามมาคือ การตกงาน เท่าที่พูดคุยกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะธุรกิจเดินหน้าไม่ได้ ไม่มีรายได้เข้ามา สภาพคล่องมีปัญหา ผู้คนระมัดระวังใช้จ่าย ทำให้การบริหารจัดการร้านอาหารลำบากมากขึ้น แม้รัฐจะช่วยเหลือเรื่องซอฟต์โลน แต่ไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด”
นายอธิพล ตีระสงกรานต์ รองกรรมการผู้จัดการ บจ.ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ต “ฟู้ดแลนด์” กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์ แม้จะช้าไป แต่ไม่มั่นใจว่ามาตรการนี้จะได้ผลในแง่การฟื้นความเชื่อมั่น คงขึ้นอยู่กับการระดมฉีดวัคซีนว่าอีกสองสัปดาห์จะกระจายได้ตามเป้าหมายมากน้อยเพียงใด แต่อยากให้รัฐช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการเรื่องการลดหย่อนภาษี สวัสดิการพนักงาน ลูกจ้าง
นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บจ.แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า มาตรการครั้งนี้แม้ใช้เพียง 2 สัปดาห์ แต่กระทบวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าในภาพรวม เนื่องจากตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าใน กทม.-ปริมณฑล เป็นตลาดที่ใหญ่ ยอดขายของแอลจี หลัก ๆ ก็จะมาจากห้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การล็อกดาวน์เมื่อ เม.ย. 2563 ยอดขายลดลงกว่า 50% แต่ครั้งนี้ต้องประเมินอีกครั้ง เพราะแม้ระยะสั้น แต่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อยลง
บทเรียนบริหารวัคซีนพลาด
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP Research บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า หลังจากนี้ รัฐบาลต้องปรับแผน 4 เรื่อง 1.เร่งตรวจเชื้อเชิงรุกมากขึ้น ไม่เว้นคนที่ไม่ปรากฏอาการ เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนที่ไม่ติดเชื้อ 2.ระดมฉีดวัคซีนเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง พื้นที่ระบาดรุนแรง 3.ขยายระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น 4.เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
มองว่ามาตรการที่ออกมา เริ่มจากขอความร่วมมือดีกว่าประกาศล็อกดาวน์ทันที ทั้งนี้ หากสั่งปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น รัฐก็ต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วด้วย ต้องพิจารณาว่าจะดูแลแรงงาน การจ้างงาน หรือธุรกิจที่ต้องปิดอย่างไร ขณะที่การปรับเพิ่มเพดานก่อหนี้สาธารณะก็จำเป็นต้องทำ เพราะไม่มีมาตรการรอบนี้ก็ต้องทำอยู่ดี ผลกระทบรอบนี้ถือเป็นต้นทุนมหาศาลที่เกิดจากความผิดพลาดอย่างรุนแรงในเรื่องวัคซีน
ชี้ 120 วันเปิดประเทศแป้ก
ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า รอบนี้ผลกระทบด้านเศรษฐกิจจะหนักขึ้นอีกมาก เพราะกำลังซื้อในประเทศแย่ลงอีก จากเดิมคาดว่าจะแย่แค่ช่วง 2 เดือนแรกของปี แต่ถึงตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเดือน ส.ค.จะกลับมาได้หรือไม่ ขณะเดียวกันสถานการณ์เช่นนี้จะเปิดประเทศยากขึ้น แผนคงต้องเลื่อนออกไปอีก ถ้าถึงขั้นล็อกดาวน์จนกระทบภาคการผลิตเพื่อส่งออก ก็จะกระทบการส่งออกความหวังเดียวของเศรษฐกิจไทยตอนนี้ จะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล
“ผมว่า 120 วันจะเปิดประเทศ ไม่มีทางทำได้ คิดว่าทำไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว”
ซีอีโอเครือไทยชี้ต้องลดผู้ติดเชื้อ
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (TGH) กล่าวว่า ผลกระทบต่อธุรกิจและเศรษฐกิจมีแน่นอน ระหว่างล็อกดาวน์ต้องชัดเจนว่ามาตรการมีอะไรบ้าง จะล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงกลุ่มไหน ปิดจุดใดบ้าง ห้ามเดินทางหรือห้ามข้ามจังหวัดหรือไม่ ต้องดูระบบขนส่งด้วย รวมถึงแผนการเร่งฉีดและกระจายวัคซีนต้องกำหนดให้ชัดเจน เพื่อให้ 14 วันที่มีการล็อกดาวน์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กดยอดผู้ติดเชื้อลงให้ได้
เร่งเพิ่มวัคซีนทางเลือก
“เจ็บแต่จบไหมไม่รู้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรก็เจ็บไปเรื่อย ๆ แต่อยากให้เร่งฉีดวัคซีน และมีวัคซีนทางเลือกให้เพียงพอ โดยสื่อสารสร้างความชัดเจนเรื่องการนำเข้าวัคซีน กระจายการฉีดไปต่างจังหวัด เพราะตอนนี้การฉีดค่อนข้างน้อย ถ้าช้าไป จากพื้นที่สีเขียวอาจกลายเป็นแดงได้ จะควบคุมการแพร่กระจายยาก” นายฐากรกล่าว
ไม่กระทบแผนผลิตรถ
สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มองว่า ล็อกดาวน์ครั้งนี้น่าจะส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรม และประเทศไทย และมีทิศทางที่ดีกว่าครั้งแรกช่วงเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นโรงงานผลิตต้องหยุดทั้งหมด ภาวะการขายชะงักงันตกต่ำถึง 65% ครั้งนี้ไม่กระทบ ยังผลิตได้ตามเดิม อาจมีปัญหาบ้าง เช่น การเดินทางข้ามจังหวัด ส่วนรายละเอียดผู้ผลิตต้องปรับให้สอดคล้องกับประกาศ ศบค. และจังหวัดนั้น ๆ
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทิศทางของตลาดส่งออกรถยนต์เริ่มกลับมาแล้ว มั่นใจว่าภาคการผลิตยังเป็นไปได้ดี ในการประชุมครั้งล่าสุดมีพูดถึงการเพิ่มตัวเลขผลิตเพื่อการส่งออก จากเดิม 750,000 คัน น่าขยับเป็น 790,000 คัน ส่วนยอดผลิตรองรับตลาดในประเทศยังเท่าเดิม 750,000 คัน
AIS ย้ำต้องมีมาตรการรองรับ
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า เพื่อให้มาตรการควบคุมการระบาดเกิดผลต้องมีแผนงานชัดเจนต่อด้วยว่าจะมีมาตรการหยุดวงจรการแพร่ระบาดให้รวดเร็วได้อย่างไร เช่น ทุ่มทรัพยากรตรวจกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด แยกคนที่ติดออกจากคนปกติไปรักษา และต้องหาสถานพยาบาล โรงพยาบาลสนามมีไม่เพียงพอก็ต้องมีระบบให้รักษาอยู่ที่บ้าน ต้องชัดเจนว่าจะจ่ายยาอย่างไร ติดตามผลอย่างไร และต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผน
“จะมีหรือไม่มีวัคซีนก็ต้องสื่อสารให้ชัดว่า ใครจะได้ฉีดวันไหน อย่าให้เขารอแล้วเลื่อนจนหมดความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญ ต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้ผลกระทบอย่างเหมาะสม และเป็นระบบ โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย หรือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบมาก ขอให้เม็ดเงินที่รัฐลงมาเยียวยาให้ประชาชน ทำให้เกิด ecosystem ในการใช้จ่ายกับกลุ่มนี้”
สำหรับบริษัทที่ผ่านมา work from home อยู่แล้ว อาคารสำนักงานทั้ง 4 แห่งปิดทั้งหมด ใครจะเข้ามาทำงาน หรือแม้แต่มาเอาของก็ต้องขออนุญาตเข้าพื้นที่ มีมาตรการปกป้องพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าเต็มที่ ส่วนพนักงานที่ต้องออกให้บริการลูกค้าตามสาขา กรณีห้างสรรพสินค้าปิดก็จะปรับมาให้บริการทางออนไลน์ โซเชียลมีเดียแทน
ค้าปลีกไอทีงัดแผนเดิมมาใช้
นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เชนร้านค้าปลีกสินค้าไอที “เจ.ไอ.บี.” กล่าวว่า บริษัทมีสาขารวม 150 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาในอาคารพาณิชย์ราว 30 สาขา ที่เหลืออยู่ในห้าง ยอดขายกว่า 90% มาจากหน้าร้าน หากห้างปิดไม่สามารถเปิดสาขาได้ก็จะส่งผลต่อยอดขายผ่านช่องทางออฟไลน์ จึงเตรียมเปิดสาขาชั่วคราวนอกพื้นที่ห้าง 20 สาขา
พร้อมเพิ่มคนในทีมเทเลเซลเป็น 30 คน อำนวยความสะดวกลูกค้า รวมถึงดึงพนักงานหน้าร้านให้เข้ามาทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ที่เคยทำช่วงโควิดระบาดรอบแรก และลุยการตลาดออนไลน์แบบเต็มสูบ คาดว่ายอดขายออนไลน์จะเพิ่มขึ้น 4-5 เท่า
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมกำลังซื้อผู้บริโภคโดยรวมเริ่มตกลง โดยเฉพาะกลุ่มระดับล่างชะลอซื้อสินค้า ขณะที่กลุ่มระดับกลางจะซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ได้ซื้อเพื่อกิจกรรมบันเทิงเหมือนช่วงที่มีการระบาดรอบแรก อาจส่งผลให้ยอดขายโดยรวมในครึ่งปีหลังตกลงประมาณ 5%
ท่องเที่ยววอนอย่ากระทบภูเก็ต
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยอมรับและเห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคธุรกิจท่องเที่ยวนั้นปัจจุบันรายได้แทบจะเป็นศูนย์อยู่แล้ว ทั้งในส่วนของตลาดต่างประเทศและภายในประเทศ เหลือเพียงแค่โครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์เท่านั้น เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาบ้าง
ดังนั้น การเดินหน้านโยบายล็อกดาวน์ครังนี้ รัฐบาลจำเป็นอย่างมากที่ต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่าจะไม่กระทบกับแผนที่ประเทศกำลังเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายภูเก็ตแซนด์บอกซ์ รวมถึงส่วนพื้นที่อื่นที่ยังรอดูผลตอบรับของภูเก็ต 15 วัน หรือ 1 เดือน ทั้งสมุย, กระบี่ และพังงา
“รัฐบาลต้องสื่อสารให้ชัดว่า นโยบายล็อกดาวน์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ภูเก็ต และพื้นที่อื่น ๆ ที่อยู่ในแผน และส่วนตัวยังคงยืนยันและอยากย้ำว่า การควบคุมการแพร่ระบาดและการกระจายวัคซีนยังคงเป็นคำตอบสำคัญของภาคธุรกิจท่องเที่ยว” นายชำนาญกล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลพิจารณามาตรการเยียวยาสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบเหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ เช่นกัน
DMT จัดแผนฉุกเฉิน
นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากสถานการณ์ล็อกดาวน์ เชื่อว่าทุกธุรกิจได้รับผลกระทบหมด ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ แต่มองว่าเป็นระยะสั้น และเชื่อว่าทุกธุรกิจล้วนมีแผนบริหารจัดการรับมือ ในส่วน DMT ธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนน ผลกระทบไม่ต่างจากธุรกิจอื่น
สิ่งที่ต้องวางแผนการบริหารจัดการให้ดี คือการบริหารเงิน หล่อเลี้ยงคนในองค์กร ขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินหน้า ซึ่งเรามีรายจ่ายหลายด้านที่เกี่ยวกับด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, การปรับปรุงเทคโนโลยี รวมถึงการซ่อมแซมโครงการต่าง ๆ ที่เราลงทุนไปปีนี้ประมาณ 700-800 ล้านบาท ฉะนั้น โดยสรุปขั้นแรกธุรกิจต้องบริหารสภาพคล่องทางการเงินให้เดินต่อไปได้ หลักการคือเราต้องลดหนี้ของบริษัทให้มากที่สุด
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat

Related Keywords

Phuket ,Thailand ,Louisiana ,United States ,Japan ,Sebastopol ,Roma ,Lazio ,Italy ,United Kingdom ,Bangkok ,Krung Thep Mahanakhon ,Oregon ,Brooklyn ,London ,City Of ,Phrae ,A Prayuth Chan ,Samui Krabi Phang Nga ,Temple Seattle ,Department Of Londonx News ,Thailand Council Tower ,Plc Ad Advance In Info Service ,Mous Piya Federation ,Business The Department ,Department Peak ,Public Health ,Nationala Phuket ,Ministry Defence As ,Plca Thailand Ho Holdings ,Services In Reservoir ,Alcoa ,Department Mall ,Phuket Province Sand Xbox ,Phrae Province ,Prayuth Chan ,Protection Phrae Province ,All Field ,Great City ,Transport Public ,York County Mall ,Place Education ,Chairman Council ,Andre Guest Chairman Director Tower ,Thailand May ,Thailand Chairman ,Alcoa David ,Ireland Super Marketwire ,Augusth Monday Manager Daily ,Thailand Private ,Londonx News ,Creative Aberdeen Senior ,Piya Federation ,Thailand Ho Holdings ,Press Peak ,Pong Secondary President ,Great Depression ,South Haven ,Info Service ,Place Hospital ,Director Managing ,Phuket Province ,Business Travel ,Samui Krabi Phang Nga Province ,Nick Panasonic Mani ,Biology Director Managing ,All Business Plain ,ஃபூகெட் ,தாய்லாந்து ,லூசியானா ,ஒன்றுபட்டது மாநிலங்களில் ,ஜப்பான் ,செபாஸ்டோபோல் ,ரோமா ,லேஸியோ ,இத்தாலி ,ஒன்றுபட்டது கிஂக்டம் ,பாங்காக் ,ஓரிகந் ,ப்ரூக்ளின் ,லண்டன் ,நகரம் ஆஃப் ,பொது ஆரோக்கியம் ,அல்கோவா ,பிரயுத் சான் ,அனைத்தும் புலம் ,நன்று நகரம் ,போக்குவரத்து பொது ,இடம் கல்வி ,தலைவர் சபை ,தாய்லாந்து இருக்கலாம் ,நன்று மனச்சோர்வு ,தெற்கு புகலிடம் ,தகவல் சேவை ,இடம் மருத்துவமனை ,ஃபூகெட் மாகாணம் ,வணிக பயணம் ,

© 2025 Vimarsana

vimarsana.com © 2020. All Rights Reserved.