vimarsana.com


ยักษ์ญี่ปุ่นพัฒนา ‘เทรดวอลซ์’ ‘บล็อกเชน’ หนุนค้าเอเชีย-แปซิฟิก
ยักษ์ญี่ปุ่นพัฒนา ‘เทรดวอลซ์’ ‘บล็อกเชน’ หนุนค้าเอเชีย-แปซิฟิก
วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 - 07:46 น.
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้บทเรียนกับภาครัฐและภาคธุรกิจในหลายประเทศได้ตระหนักชัดว่า การพึ่งพิงสินค้าจากแหล่งเดียวมีความเสี่ยงอย่างมหาศาล หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้ระบบซัพพลายเชนขัดข้อง ซึ่ง “ญี่ปุ่น” ก็เป็นอีกประเทศที่ได้รับบทเรียนดังกล่าว และพยายามแก้ไขปัญหาครั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง
“บล็อกเชน” (blockchain)
นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ญี่ปุ่นนำโดยภาคเอกชน “เอ็นทีที ดาต้า”, มิตซูบิชิ, เอ็มยูเอฟจี แบงก์ และโตเกียวมารีน แอนด์ นิชิโด ไฟร์ อินชัวรันซ์ ได้ร่วมกันพัฒนาเครือข่ายการค้าด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เรียกว่า “เทรดวอลซ์” (TradeWaltz)
โดยเทรดวอลซ์จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมระบบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้า เส้นทางการจัดจำหน่าย และข้อมูลธุรกรรมการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงเชื่อมโยงกับข้อมูลภาครัฐ ที่ทำให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจและค้นหาคู่ค้าที่มีศักยภาพสูงสุดได้ดีขึ้น
ทั้งหมดนี้จะดำเนินการผ่านเครือข่ายบล็อกเชนที่สามารถจัดเก็บและเข้าถึงเอกสารดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและความยุ่งยากจากงานธุรกรรมเอกสารกระดาษที่ภาคธุรกิจต้องแบกรับ คิดเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทญี่ปุ่นราว 3 แสนล้านเยน/ปี
“เทรดวอลซ์” ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา หลังจากเริ่มทดสอบระบบเมื่อปีที่ผ่านมา และกำลังทดลองดำเนินการในเวียดนาม โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2025 จะมีกว่า 5,000 บริษัทในญี่ปุ่น และอีก 6 ประเทศเอเชีย-แปซิฟิกเข้าร่วมระบบดังกล่าว ได้แก่ เวียดนาม ไทย สิงคโปร์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
หากประสบความสำเร็จ เทรดวอลซ์จะกลายเป็นเครือข่ายการค้าข้ามพรมแดนขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถแสวงหาแหล่งสินค้าทดแทนได้ทันที หากเกิดการปิดกั้นพรมแดนหรือระบบขนส่งขัดข้องที่ทำให้ซัพพลายเชนไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด
เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นเครื่องมือช่วยกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ซึ่งญี่ปุ่นได้เรียนรู้จากการปิดกั้นพรมแดนของจีน ที่ทำให้ญี่ปุ่นขาดแคลนสินค้าเวชภัณฑ์อย่างหน้ากากอนามัย ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นที่พึ่งพิงชิ้นส่วนยานยนต์จากจีนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีสัดส่วนการค้ากับ 6 ประเทศเอเชีย-แปซิฟิกราว 20% ของปริมาณการค้าทั้งหมด แต่จากความเสี่ยงในการพึ่งพิงจีนค่อนข้างมาก ทำให้ญี่ปุ่นตั้งเป้าในการเพิ่มสัดส่วนการค้ากับประเทศอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งเทรดวอลซ์ก็เป็นหนึ่งในความพยายามดังกล่าว
นอกจากนี้ เทรดวอลซ์ยังมีแผนเชื่อมโยงกับระบบบล็อกเชนการค้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายตลาดและความสามารถในการเข้าถึงซัพพลายเชนที่หลากหลายมากขึ้น ขณะที่จีนไม่ได้เข้ามีส่วนร่วม แม้จะเป็นประเทศที่มีซัพพลายเชนเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เทรดวอลซ์ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น การสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของการจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ซึ่งหลายบริษัทอาจไม่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ นอกจากนี้ การเชื่อมโยงกับข้อมูลภาครัฐและระบบราชการในหลายประเทศที่ยังคงยึดติดกับงานธุรการเอกสาร ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการเชื่อมต่อค้าขายผ่านระบบบล็อกเชนของเทรดวอลซ์
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat

Related Keywords

Vietnam ,Republic Of ,China ,Japan ,Tokyo ,New Zealand ,United Kingdom ,Phrae ,Thailand ,Chinese ,Japanese , ,Phrae Province ,Japanese Half ,Asia Report ,Japan Import ,Mani Japan Donetsk ,Assistant Director ,Start Tests ,Country Last ,Gan Chinese ,வியட்நாம் ,குடியரசு ஆஃப் ,சீனா ,ஜப்பான் ,டோக்கியோ ,புதியது ஜீலாந்து ,ஒன்றுபட்டது கிஂக்டம் ,தாய்லாந்து ,சீன ,ஜப்பானிய ,ஆசியா அறிக்கை ,ஜப்பான் இறக்குமதி ,உதவியாளர் இயக்குனர் ,தொடங்கு சோதனைகள் ,

© 2025 Vimarsana

vimarsana.com © 2020. All Rights Reserved.