vimarsana.com


สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศไทยที่รุนแรงขึ้น และมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อ จนรัฐบาลต้องงัดมาตรการ “ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” กลับมาใช้อีกรอบ หลังจากเคยใช้มาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา
แน่นอนว่า จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ทำให้สำนักพยากรณ์ด้านเศรษฐกิจพากันปรับลดประมาณการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2564 นี้ลง
โดยศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย นำร่องปรับลดประมาณการจีดีพี ปี 2564 เหลือโตได้ในช่วง 0.5-1.3% จากเดิมคาด 0.8-1.6% ซึ่งปัจจัยผลกระทบต่อการปรับประมาณการจีดีพีครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางที่ไม่สามารถทำได้เลย ส่งผลกระทบต่ออัตราการจองห้องพัก
โดย
“ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 มีความรุนแรงและจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่าประมาณการเดิม ธนาคารจึงได้ปรับประมาณการจีดีพีลงอีกครั้ง หลังจากเมื่อเดือน พ.ค. ประเมินว่าจีดีพีจะโตได้ 0.8-1.6%
“โอกาสที่จีดีพีอยู่ในโซนติดลบได้ แต่ก็ขึ้นกับสถานการณ์ว่าจะรุนแรงแค่ไหน เนื่องจากรอบที่ประมาณการในเดือน พ.ค.ยังไม่รุนแรง แต่ผ่านมา 2 เดือน สถานการณ์ระบาดรุนแรงขึ้น” ดร.พชรพจน์กล่าว
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประกาศปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 ลงอยู่ที่ 1.0% จากประมาณการเดิมที่ 1.8% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีความรุนแรงกว่าที่เคยประเมิน
ส่งผลกระทบให้ระบบสาธารณสุขของไทยเผชิญข้อจำกัด จึงมีความจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการจ้างงานมีมากขึ้น
และมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ทรุดตัวไปกว่าเดิม ในขณะที่มาตรการเยียวยาจากทางภาครัฐ คาดว่าจะช่วยประคองการดำรงชีพที่จำเป็นของประชาชน แต่ไม่สามารถชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2564 ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่ยังคงเผชิญความเสี่ยงสูง ทั้งจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ ประสิทธิภาพของวัคซีน
รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนที่อาจต่ำกว่าเป้าหมายโดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังไม่คลี่คลายลงคาดว่าภาครัฐอาจจำเป็นต้องมีมาตรการดูแลผลกระทบเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน
หากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลง คาดว่าภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแรงส่งมากขึ้น โดยใช้งบประมาณภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศที่ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ ๆ เช่นกัน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้าได้
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า จากมาตรการล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ทำให้ความเชื่อมั่นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เผชิญความเสี่ยงขาลงมากขึ้น และกระทบต่อประมาณการจีดีพีไทยในปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2% เนื่องจากสถานการณ์การระบาดได้เข้าสู่กรณีเลวร้ายสุดของแบบจำลองที่วิจัยกรุงศรีประมาณการไว้
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันใกล้แตะระดับ 10,000 คน ในช่วงต้นเดือน ก.ค. ภายใต้สมมุติฐานว่าการติดเชื้อของไทยในระยะข้างหน้ามีสาเหตุหลักจากเชื้อสายพันธุ์เดลต้าและเบต้า
ดังนั้น ข้อมูลรูปแบบการติดเชื้อจึงอ้างอิงจากประเทศอินเดียและแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ภายใต้การคาดการณ์เป้าหมายการฉีดวัคซีนไว้ที่ 250,000 โดสต่อวันจนถึงสิ้นปีนี้
ผนวกกับผลของมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้นล่าสุด คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงอย่างช้า ๆ นับตั้งแต่เดือน ส.ค.
ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรี ชี้ว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง โดยเฉพาะภายหลังจากเดือนกันยายนซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วเป็นอย่างน้อยที่ 25-30 ล้านคน หรือราว 40% ของประชากร
ด้านธนาคารโลก “นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา” นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ยืดเยื้อยาวนานเกินกว่าจะควบคุมได้ จนรัฐบาลต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ยาวจนไตรมาส 3 ของปีนี้ จะถือเป็นกรณีเลวร้ายที่สุด
โดยจะส่งผลกระทบทำให้จีดีพีปีนี้โตลดลงเหลือ 1.2% จากปัจจุบันคาดว่าจีดีพีจะโตได้ 2.2% ส่วนปี 2565 การเติบโตจะลดลงเหลือ 2.1% จากปัจจุบันคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 5.1%
“ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงและความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่ ๆ รวมถึงสายพันธุ์ที่แรงขึ้น และการกลายพันธุ์ของไวรัสซึ่งจะทำให้การควบคุมการระบาดทำได้ยากยิ่งขึ้น
รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเรื่องการจัดซื้อและกระจายวัคซีนที่ล่าช้ากว่าคาดการณ์มาก จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการล็อกดาวน์ หรือลดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกได้” นายเกียรติพงศ์กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ส่งสัญญาณว่า จะปรับประมาณการจีดีพีลงอีกครั้ง แม้ว่าจะเพิ่งปรับลดประมาณการเหลือเติบโตได้ 1.8% ไปหมาด ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ตาม
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat

Related Keywords

Florida ,United States ,Thailand ,India ,Toronto ,Ontario ,Canada ,Phrae , ,Or Bank Thailand ,Public Health Thailand ,Dodge ,Bank Si ,World Bank ,Bank Mr ,Dailya Centerr Bank Thailand ,Alcoa ,Panasonic ,Phrae Province ,Director Manager Daily ,Centerr Bank Thailand ,Department State ,Country India Africa South ,World Thailand ,புளோரிடா ,ஒன்றுபட்டது மாநிலங்களில் ,தாய்லாந்து ,இந்தியா ,டொராண்டோ ,ஆஂடேரியொ ,கனடா ,பொது ஆரோக்கியம் தாய்லாந்து ,டாட்ஜ் ,உலகம் வங்கி ,வங்கி திரு ,அல்கோவா ,பானாசோனிக் ,துறை நிலை ,உலகம் தாய்லாந்து ,

© 2024 Vimarsana

vimarsana.com © 2020. All Rights Reserved.