ธปท.หวั่นโควิดฉุด GDP แนะรัฐออกมาตรการการเงิน-การคลังรับมือให้เพียงพอ : vimarsana.com

ธปท.หวั่นโควิดฉุด GDP แนะรัฐออกมาตรการการเงิน-การคลังรับมือให้เพียงพอ


เสาร์ 24 กรกฎาคม 2564
ธปท.หวั่นโควิดฉุด GDP แนะรัฐออกมาตรการการเงิน-การคลังรับมือให้เพียงพอ
23 กรกฎาคม 2564
261
แบงก์ชาติหวั่นสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงและลากยาวเกินคาด ทำให้ต้องล็อกดาวน์นานขึ้น ฉุดเศรษฐกิจปีนี้ทรุด 0.8-2% จับตาสาธารณสุขวิกฤติ ภาคการผลิตชะงัก แนะรัฐออกมาตรการการเงิน-การคลังรับมือให้เพียงพอ ขณะที่สำนักวิจัยเอกชนแห่หั่นเป้าจีดีพี
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่ทำให้การติดเชื้อรุนแรงและลากยาวกว่าที่คาดการณ์ ที่ส่งผลให้ภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์ 13 จังหวัดรวม กทม.เพื่อควบคุมการระบาด แต่สถานการณ์ปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนสูง และการล็อกดาวน์ยังมีความเสี่ยงจะยืดเยื้อออกไป
ทั้งนี้ ธปท.จัดทำประมาณการผลกระทบต่อเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2564 โดยคาดว่าในกรณีที่สถานการณ์ดีขึ้นภายหลังล็อกดาวน์ คือ หากควบคุมการระบาดทำให้ผู้ติดเชื้อรายวันลดลง 40% จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า1 หมื่นคนต่อวัน และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเดือน ส.ค. จะส่งผลกระทบต่อคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลดลง 0.8% แต่ในกรณีที่สถานการณ์ย่ำแย่ คือควบคุมการระบาดให้ลดลงได้เพียง 20% ซึ่งมีความเสี่ยงจะกลับมาระบาดซ้ำ จะส่งผลกระทบต่อคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลดลง 2.0% จากคาดการณ์จีดีพีปีนี้โต 1.8%
“ช่วงปลายเดือน มิ.ย.เราคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 จะเติบโต 1.8% ส่วนคาดการณ์ผลกระทบจากโควิดต่อจีดีพี 0.8-2% อาจไม่สามารถนำมาหักลบกันตรงๆ ได้ เพราะยังมีปัจจัยอื่น เช่น มาตรการทางการคลัง การส่งออก ซึ่งอาจเข้ามาช่วยพยุ่งเศรษฐกิจ แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อคาดการร์เศรษฐกิจ”
ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจปี 2565 คาดว่าจะช้ากว่าที่คาดการณ์ เพราะขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนเป็นสำคัญ อีกทั้งการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันหมู่ อาจต้องเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90-92% จากเดิม 80% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันอื่นๆ เช่น นโยบายการเปิดประเทศของต่างชาติ นโยบายการคลังและการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฐานะการเงินและสภาพคล่องธุรกิจ ฯลฯ
แนะเตรียมมาตรการรับมือยาว
ส่วนประเด็นที่จะต้องจับตาต่อในระยะถัดไป ได้แก่ ระยะสั้นด้านความพร้อมด้านสาธารณสุข และภาคการผลิตที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาด ส่วนระยะยาวควรเร่งกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงแทนมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ซึ่งอาจจำเป็นในระยะสั้น แต่ไม่ตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ
“ข้อเสนอแนะทางนโยบาย ธปท.แนะนำภาครัฐต้องเตรียมเครื่องมือและมาตรการให้เพียงพอและยาวนาน ซึ่งต้องทำเต็มที่ทั้งนโยบายการเงินและการคลัง เนื่องจากมาตรการแต่ละด้านมีข้อจำกัด รวมถึงต้องคำนึงถึงการใช้จริงในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น เตรียมช่องทางการเข้าถึงความช่วยเหลือทางออนไลน์เพิ่มขึ้น”
อีไอซี-เคเคพีหั่นจีดีพี
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประกาศปรับประมาณการจีดีพีไทยปีนี้ลงจากเดิม 1.9% มาอยู่ที่ 0.9% เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายตัวในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภคค่อนข้างมาก 
ทั้งจากมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมโรคที่เข้มงวดขึ้น ความกังวลของประชาชนในการใช้จ่ายภายใต้ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น และและแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกขึ้น ขณะที่เม็ดเงินช่วยเหลือจากภาครัฐที่ออกมายังไม่เพียงพอและทั่วถึง จึงช่วยบรรเทาผลกระทบได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
บริโภคหดตัว 7.7 แสนล้าน
อีไอซี ประเมินว่า การบริโภคภาคเอกชนจะถูกกระทบค่อนข้างรุนแรงในช่วงไตรมาสที่ 3 ก่อนฟื้นตัวอย่างช้าๆในช่วงปลายปี โดยการระบาดในประเทศที่อยู่ในภาวะวิกฤติ สะท้อนจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการฉีดวัคซีนที่มีความล่าช้ากว่าแผน และมีประสิทธิภาพน้อยลงในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง จึงทำให้คาดว่าจะต้องใช้เวลาถึงช่วงสิ้นเดือนพ.ย. ที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะปรับลดลงต่ำกว่า 100 รายต่อวัน ซึ่งใช้เวลากว่า 8 เดือนตั้งแต่มีการระบาดในเดือน เม.ย. จากเดิมที่คาดว่า 4 เดือนคุมอยู่ โดยมีแนวโน้มสร้างความเสียหายต่อการบริโภคภาคเอกชนกว่า 7.7 แสนล้านบาท
โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลของมาตรการล็อกดาวน์ ความกังวลของประชาชนต่อการติดเชื้อ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นมาก ตลอดจนรายได้ของผู้ประกอบการและแรงงานในหลายภาคธุรกิจที่จะปรับลดลงมาก แม้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคบางส่วนจะหันไปใช้ธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบได้บางส่วน 
ส่งออกช่วยพยุง 
สำหรับแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังเป็นการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง คาดว่าจะขยายตัว 15% แต่ส่งออกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 ที่อาจทำให้เกิด ซัพพลาย ดีสรัปชั่น ในการผลิตภาคอุตสาหกรรม ในภาพรวม แม้การค้าโลกจะปรับชะลอลงบ้าง แต่ยังขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี ตามการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว 
ส่วนการเปิดประเทศให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะยังไม่สามารถช่วยฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวได้มากนักในปีนี้ ภายใต้ภาวะการระบาดที่รุนแรงขึ้น โดยการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการนำร่องอย่างภูเก็ต แซนด์บอกซ์ และ สมุย พลัส จะมีข้อดีด้านการวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในระยะต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ดีการเปิดรับนักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาได้มากนักในปีนี้ เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ที่เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักของไทยยังมีนโยบายการเปิดเดินทางเข้าออกประเทศที่ค่อนข้างระมัดระวังจากความกังวลของการระบาดสายพันธุ์ใหม่ ประกอบกับสถานการณ์ระบาดในไทยที่ปรับแย่ลง ก็มีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวกังวลที่จะเดินทางเข้าไทย จึงทำให้อีไอซี จึงปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เหลือ 3 แสนคน จากเดิมคาด 4 แสนคน
คาดรัฐอัดฉีดเพิ่ม 1.5 แสนล้านบาท
ด้านมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการประคับประคองเศรษฐกิจและลดแผลเป็นทางเศรษฐกิจ แม้ภาครัฐจะพยายามออกมาตรการเยียวยาควบคู่ไปกับมาตรการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดี มาตรการภาครัฐที่ออกมาจนถึงปัจจุบันยังไม่เพียงพอทั้งในเชิงพื้นที่ ระยะเวลา และปริมาณเงินรวม 
อีไอซีคาดว่า ในกรณีฐาน ภาครัฐจะออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากปัจจุบันอย่างน้อยอีกราว 1.5 แสนล้านบาท รวมเป็นใช้เม็ดเงินจาก พรก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ราว 2 แสนล้านบาทในปีนี้ และภาครัฐอาจพิจารณาการใช้จ่ายเพิ่มเติมหากการระบาดยืดเยื้อกว่าที่คาด ทั้งนี้มาตรการที่ภาครัฐควรเร่งรัด ได้แก่ 
1.มาตรการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็วและทั่วถึง การเพิ่มการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อเพื่อแยกผู้ป่วยออกจากคนปกติ 2.มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ นอกจากเม็ดเงินเยียวยาที่ตรงจุด เพียงพอ และขยายเวลาออกไปอย่างน้อยในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งการระบาดน่าจะยังอยู่ในระดับสูง เพื่อช่วยประคับประคองการใช้จ่ายของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 
เคเคพีหั่นจีดีพีโตแค่ 0.5% 
ด้าน KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่า การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 อาจมีแนวโน้มยืดเยื้อกว่าที่หลายฝ่ายประเมิน การระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้อาจจะไม่สามารถจบได้เร็วแบบเดียวกับปีก่อน à¸›à¸£à¸°à¸à¸­à¸šà¸à¸±à¸šà¸¡à¸²à¸•à¸£à¸à¸²à¸£à¸¥à¹‡à¸­à¸à¸”าวน์ที่เริ่มต้นช้า นโยบายจำนวนการตรวจโรคที่เป็นข้อจำกัดที่อาจทำให้เราประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าความจริง และสัดส่วนของคนที่มีภูมิคุ้มมีน้อยมากจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ทำได้ช้าและวัคซีนมีประสิทธิผลในการป้องกันต่อเชื้อเดลต้าต่ำ
ทั้งนี้ มองว่าการระบาดระลอกปัจจุบันของไทยจะต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างน้อย 3 เดือนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาความรุนแรงลง ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจจากการบริโภคและการลงทุนที่จะลดลงในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 และจะส่งผลให้การเติบโตของการบริโภคทั้งปีติดลบ และกระทบต่อการคาดการณ์จีดีพีในปี 2564 ลดลงจาก 1.5% เหลือเพียง 0.5% แม้ว่าการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นก็ตาม

Related Keywords

Thailand , Taiwan , Philippines , United States , United Kingdom , Bangkok , Krung Thep Mahanakhon , Toronto , Ontario , Canada , May Do , Samar , Phrae , Samui , Surat Thani , , International Division , Countrya National Policy , Public Health , Business The Bank Thailand , Banka Thailand , Bank National , Alcoa , Bankk Thailand , Alcoa David , Thailand Private , National Policy Finance , Policy Financial Finance , Bank Thailand , Phrae Province , Phuket Province Sand Xbox , Samui Plus , South Division , Last Thailand , Department State , Business Finance , New Alcoa , Thailand Philippines , New Taiwan , தாய்லாந்து , டைவாந் , பிலிப்பைன்ஸ் , ஒன்றுபட்டது மாநிலங்களில் , ஒன்றுபட்டது கிஂக்டம் , பாங்காக் , டொராண்டோ , ஆஂடேரியொ , கனடா , சமர் , ஸ்யாம்யூயீ , சூரத் தானி , சர்வதேச பிரிவு , பொது ஆரோக்கியம் , வங்கி தேசிய , அல்கோவா , வங்கி தாய்லாந்து , தெற்கு பிரிவு , துறை நிலை , வணிக நிதி , புதியது டைவாந் ,

© 2024 Vimarsana