ป่วยเกินหมื่น-ตายเกินร้อย ชงล็อกแบบ เม.ย.63 ปิดจุดเสี่ยงกับที่สาธารณะ
บันทึก
SHARE
รัฐบาลเล็งจัดเต็มยกระดับล็อกดาวน์เทียบเท่าช่วง เม.ย.63 หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศทุบสถิติทำนิวไฮทั้งติดเชื้อใหม่ พุ่งเกิน 1 หมื่นราย ตายทะลุกว่าร้อยศพในวันเดียว ไม่ใช่ระบาด หนักแค่ใน กทม. และปริมณฑล แต่ลามไปทั่วประเทศ หลังล็อกดาวน์แคมป์คนงานจนคนแห่กลับภูมิลำเนาจัดเคอร์ฟิว 10 พื้นที่สีแดงเข้มยังเอาไม่อยู่ ด้านคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รับจ่าย 26 ล้านบาท จองวัคซีนโมเดอร์นาผ่านสภากาชาดไทย 2 หมื่นโดสแล้ว พร้อมแนะรัฐบาลไม่ควรสั่งซิโนแวคเข้ามาอีก เหตุไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ชี้อยากให้เปิดใจ มองวัคซีนแพลตฟอร์มอื่นๆ รวมถึงต้องดีลวัคซีนรุ่นสอง แต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 120 ล้านโดส ด้านดาราสาวคนดัง “แต้ว-ณฐพร” เผยผลตรวจรอบสองเป็นลบ ไม่ติดโควิดแล้ว
ในที่สุดไทยก็มาถึงวันที่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) ทำสถิติใหม่นิวไฮทะลุ 1 หมื่นคนและผู้ป่วยเสียชีวิตพุ่งเกิน 100 ศพต่อวัน แม้รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีคำสั่งล็อกดาวน์ 10 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างรุนแรงมาครบสัปดาห์
ข่าวแนะนำ
ติดเชื้อทะลักหมื่นตายทะลุร้อย
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ศบค.แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,082 คน เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 9,913 คน ติดเชื้อในเรือนจำและสถานที่ต้องขัง 127 คน จากต่างประเทศ 42 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 391,989 คน หายป่วยเพิ่ม 6,327 คน ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 278,184 คน อยู่ระหว่างการรักษา 110,565 คน อาการหนัก 3,454 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 839 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 141 คน เป็นชาย 73 คน หญิง 68 คน อยู่ใน กทม. 71 คน นนทบุรี 18 คน สมุทรสาคร 7 คน ปทุมธานี 6 คน นครปฐม 5 คน อุบลราชธานี 4 คน นราธิวาส ปัตตานี กาญจนบุรี จังหวัดละ 3 คน ยะลา ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี อุดรธานี จังหวัดละ 2 คน สงขลา สมุทรปราการ สระแก้ว เชียงราย ชัยภูมิ กำแพงเพชร นครนายก อ่างทอง นครพนม นครราชสีมา หนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 3,240 คน ส่วนยอดฉีดวัคซีนเพิ่มเติม จำนวน 307,134 โดส ทำให้มียอดสะสม 14,130,489 โดส
คลัสเตอร์ใหม่ผุดกระจาย
สำหรับ 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 2,302 คน สมุทรปราการ 849 คน สมุทรสาคร 680 คน ชลบุรี 659 คน นนทบุรี 471 คน นครปฐม 288 คน สงขลา 286 คน ปทุมธานี 251 คน ฉะเชิงเทรา 245 คน ยะลา 196 คน ขณะที่ คลัสเตอร์ใหม่ มีเกิดขึ้นหลายจังหวัด ประกอบด้วย โรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง อ.เมืองสมุทรสาคร พบผู้ป่วยรายใหม่ 39 คน บริษัทชิ้นส่วนโลหะ อ.เมืองชลบุรี พบผู้ป่วยรายใหม่ 13 คน จ.นนทบุรีพบ 2 คลัสเตอร์ คือโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อ.บางบัวทอง พบผู้ป่วย 20 คน แคมป์ก่อสร้าง อ.บางกรวย พบผู้ป่วย 16 คน โรงงานเครื่องหอม อ.สามพราน จ.นครปฐม พบผู้ป่วย 15 คน โรงงานจอทีวี อ.ศรี-มหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบผู้ป่วย 25 คน จ.พระนคร-ศรีอยุธยา พบ 2 คลัสเตอร์ คือตลาดเจ้าพรหม อ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วย 7 คน และโรงงานเครื่องกลึง อ.วังน้อย พบผู้ป่วย 9 คน โรงงานปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พบผู้ป่วย 12 คน โรงงานผลไม้กระป๋อง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบผู้ป่วย 47 คน
เดลตาระบาดหนักทั่วโลก
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ทั่วโลกพบการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา พบมากกว่า 111 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ป่วยผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ขยายวงกว้างในระดับสูงมาก จนกระทบขีดความสามารถทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก
รวมกลุ่มปาร์ตี้ทำยอดไม่ลด
นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,082 คน เสียชีวิต 141 ราย ส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 เป็นผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มี โรคประจำตัวเรื้อรัง ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการติดเชื้อในการระบาดระลอกนี้ แตกต่างจากก่อนหน้านี้ มาก เพราะพบการระบาดแพร่เชื้อในครอบครัวจากเพื่อนบ้าน ติดไปถึงผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังในบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ ทำให้การป่วยเกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ จนถึงวันนี้ยังลักลอบเล่นการพนัน รวมกลุ่มเพื่อนจัดปาร์ตี้ที่บ้านและนอกบ้าน เป็นความเสี่ยงที่ทำให้การระบาดของโรคไม่ลดลง ต้องขอบคุณความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร และประชาชนส่วนใหญ่ที่ยังให้ความร่วมมือ
ต้องปกป้องคนในครอบครัว
นพ.โอภาสกล่าวว่า ถึงเวลาที่ทุกครอบครัวจำเป็นต้องปกป้องคนที่ท่านรักและตัวท่านเองด้วยตัวของท่านเอง โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายด้วยการงดออกจากบ้าน ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อนอกบ้านและไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นต่อ ทั้งนี้เวลาอยู่บ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อพูดคุยกับสมาชิกในบ้าน ทานอาหารแยกกัน ทำความสะอาดอุปกรณ์และที่สัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เช่น ตู้เย็น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะอาหาร เป็นต้น เราทุกคนต้องช่วยกันปกป้องผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังในบ้านเรา หากพบการติดเชื้อจะได้ป้องกันอาการรุนแรงจนอาจเสียชีวิตได้ จำเป็นต้องพาผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังไปรับการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้เตรียมพื้นที่และได้รับวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงจำนวนมากในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ในหลายจุด
กลาง-ตะวันออกระบาดในโรงงาน
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวอีกว่า สถานการณ์ของโรคในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกพบการระบาดในโรงงานและสถานประกอบการ ผู้ประกอบการต้องร่วมมือกับคนงาน เพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก มีการแพร่เชื้อกระจายไปยังชุมชนรอบๆ ต้องมีมาตรการเคร่งครัด ที่เรียกว่าบับเบิลแอนด์ซีล คืออยู่ในสถานประกอบการกับที่พักเท่านั้น รวมทั้งการเดินทางจะต้องไม่แวะตามจุดต่างๆ
เหนือ-อีสานคนแห่กลับบ้านเกิด
ส่วนสถานการณ์โรคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่าพบผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจาก กทม. และปริมณฑลเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยมากขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องขอความร่วมมือทุกคนงดเดินทางข้ามจังหวัด และเพิ่มการดูแลรักษา โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีอาการ หรืออาการน้อย ให้เข้าระบบการจัดการรักษาดูแลที่บ้าน หรือการกักตัวรักษาในชุมชน ขณะนี้มีความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะใน กทม.ได้เริ่มทำเป็นรูปธรรมแล้ว
เล็งยกระดับคุมเข้มกว่าเดิม
นพ.โอภาสระบุอีกว่า จากสถานการณ์ขณะนี้ คาดการณ์ว่าหากยังไม่ทำมาตรการอะไรที่เพิ่มเติมมากกว่านี้จะทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมากไปอีกอย่างน้อย 3-4 เดือน ทำให้ต้องมีการยกระดับมาตรการเพื่อป้องกันควบคุมโรค โดยเฉพาะการจำกัดการเดินทาง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนี้ ทุกคนต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล และเร่งรัดการฉีดวัคซีน เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ต้องขอแจ้งว่าขณะนี้ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทุกท่านเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังมีระดับสูงมากกลับมาดีขึ้นได้ในเร็ววัน กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการเพิ่มเติมและจะแถลงข่าวต่อไป
สั่งเพิ่ม รพ.สนามในค่ายทหาร
ส่วนที่ศาลาว่าการกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับหน่วยงาน กอ.รมน. นขต. กห.เหล่าทัพ และตำรวจ ว่า เพื่อเร่งหยุดเชื้อใน กทม. กองทัพกำลังร่วมกับ กทม. จัดกำลังร่วมทำหน้าที่ชุดตรวจค้นหาเชิงรุก 69 ชุดและเตรียมจัดเพิ่มเป็น 188 ชุด เร่งเข้าชุมชนใน 50 เขต ตรวจคัดกรองแยกผู้ป่วยออกจากบ้านและชุมชน เข้ารับการรักษาในระบบ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงตามบ้าน ระหว่างวันที่ 15- 25 ก.ค. รวมถึงเร่งตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนหน่วยทหาร และจัดตั้งพื้นที่คัดแยกผู้ป่วยรองรับการดูแลกันเองในหน่วยทหาร นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม สั่งการขอให้ทุกเหล่าทัพสำรวจพื้นที่ในหน่วยทหาร ขยายจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มเติมและเตรียมบุคลากรทางการแพทย์แถวสองและอาสาสมัคร เพื่อดูแลรองรับ ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มมากขึ้นให้เพี
Related Keywords